หนึ่งในดุอาอ์ยามเช้ายามเย็นที่มุสลิมไม่ควรพลาด
คำอ่าน + ความหมาย + คำอธิบาย
#ซัยยี่ดุ้ลอิสติฆ์ฟาร (นายของการขออภัยโทษ)

“นายของการขออภัยโทษคือการที่บุคคลหนึ่งกล่าวว่า : อัลลอฮุมม่าอันต้าร็อบบีย์ ลาอิลาฮ่าอิ้ลลาอันต้า ค่อลักต้านี ว่าอ้าน่าอับดุก้า ว่าอ้าน่าอะลาอะฮ์ดิก้า ว่าวะอ์ดิก้ามัสตะเตาะอ์ตุ้ อ้าอูซู้บิก้ามินชัรริมาศ่อนะอ์ตุ้ อะบูอู้ล้าก้าบินิอ์ม่าติก้าอ้าลัยย่า ว่าอ้าบูอู้บิซัมบี ฟัฆ์ฟิรลี ฟ่าอินน่าฮูลายัฆ์ฟิรุซซู่นูบ้าอิ้ลลาอันต้า
#ความว่า “โอ้อัลลอฮ์ พระองค์ท่านคือพระผู้อภิบาลของข้าพระองค์ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่เที่ยงแท้อีกแล้วนอกจากพระองค์เท่านั้น พระองค์ทรงบังเกิดข้าพระองค์และข้าพระองค์เป็นบ่าวของพระองค์ ข้าพระองค์อยู่บน(ยึดมั่นต่อ)พันธะและสัญญาของพระองค์ตามที่ข้าพระองค์สามารถ ข้าพระองค์ขอความคุ้มครองต่อพระองค์ให้พ้นจากความชั่วที่ข้าพระองค์ได้ก่อ ข้าพระองค์ยอมรับต่อพระองค์ในความโปรดปรานของพระองค์ที่ประทานให้ และข้าพระองค์ยอมรับต่อพระองค์ในความผิดที่ข้าพระองค์ได้กระทำ ขอพระองค์ทรงโปรดอภัยโทษให้แก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด เพราะแท้จริงไม่มีผู้ที่จะอภัยความผิดได้นอกจากพระองค์เท่านั้น”
ผู้ใดที่กล่าวดุอาอ์บทนี้ในยามเช้าด้วยความมั่นใจ แล้วเขาเสียชีวิตในวันนั้นก่อนที่จะเข้าเวลาเย็น เขาคือหนึ่งในชาวสวรรค์ และผู้ใดที่กล่าวดุอาอ์บทนี้ยามกลางคืนโดยมีความมั่นใจ แล้วเขาเสียชีวิตก่อนที่จะถึงเวลาเช้าเขาจะเป็นหนึ่งในชาวสวรรค์”
บันทึกโดยอัลบุคอรีย์

ดุอาอ์บทนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เป็นดุอาอ์ที่ประมวลไว้ซึ่งเนื้อหาของการกลับเนื้อกลับตัว การแสดงความต่ำต้อยต่ออัลลอฮ์ ตะอาลา ซึ่งท่านนบี ได้ให้ลักษณะแก่ดุอาอ์บทนี้ว่าเป็นนายของการขออภัยโทษ ดังกล่าวก็เพราะสำนวนของดุอาอ์บทนี้นั้นมีความประเสริฐกว่าบทอื่น ๆ หากจะเทียบระดับกับดุอาอ์บทอื่น ๆ ดุอาอ์บทนี้ก็มีระดับหรือฐานะที่สูงกว่า
★ส่วนหนึ่งจากความหมายของคำว่า “นาย” คือผู้ที่นำหน้ากลุ่มชนในเรื่องความดีและเขามีฐานะเหนือกว่าพวกเขา
แง่มุมความประเสริฐของสำนวนในดุอาอ์บทนี้ที่เหนือกว่าสำนวนอื่น ๆ ในเรื่องของการขออภัยโทษคือ ท่านนบี ได้เริ่มด้วยการสรรเสริญอัลลอฮ์ และยอมรับว่าท่านเป็นบ่าวของพระองค์ ถูกบังเกิดมาเพื่อพระองค์ และพระองค์คือผู้ได้รับการเคารพสักการะโดยเที่ยงแท้เท่านั้น ไม่มีพระเจ้าอื่นที่คู่ควรแก่การได้รับสักการะนอกจากพระองค์ ท่านยังคงยึดมั่นต่อสัญญาและยืนหยัดในพันธะที่ท่านได้ให้แก่พระองค์ว่า จะอีหม่านศรัทธาต่อพระองค์ ต่อคัมภีร์ บรรดานบีและร่อซูลของพระองค์ โดยที่ท่านดำรงมั่นอยู่บนสิ่งดังกล่าวเท่าที่สามารถ
หลังจากนั้นท่านขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮ์ ให้พ้นจากความชั่วทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นความบกพร่องในเรื่องการกตัญญูต่อความโปรดปรานที่พระองค์ทรงประทานให้แก่ท่านที่ท่านจำต้องกระทำและการกลับเนื้กกลับตัวจากความผิดที่เกิดขึ้น
ต่อจากนั้นท่านยอมรับในความโปรดปราน ความเมตตาที่อัลลอฮ์ ได้ทรงประทานให้แก่ท่านอย่างต่อเนื่อง และยอมรับต่อความผิดบาปแล้วท่านก็ขออภัยโทษต่อพระองค์ในบาปทั้งหมดโดยยอมสยบว่าไม่มีผู้ให้อภัยความผิดบาปได้นอกจากพระองค์เพียงพระองค์เดียวเท่านั้น
นี่คือความสมบูรณ์แบบในการขอดุอาอ์ เหตุนี้เองดุอาอ์บทนี้จึงเป็นดุอาอ์ที่ใช้สำนวนประเสริฐที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุดและรวมไว้ซึ่งความหมายของการอภัยโทษทั้งหมด

“พระองค์ท่านคือพระผู้อภิบาล(รุบูบียะฮ์)ของข้าพระองค์” ไม่มีพระผู้อภิบาล(ผู้ทรงบริหาร ดูแลจัดการสรรพสิ่งทั้งหลาย หรือการกระทำอื่น ๆ ของพระองค์)และไม่มีผู้สร้างอื่นนอกจากพระองค์อีกแล้ว คำว่า “อัรร็อบ” คือผู้ทรงเป็นเจ้าของทุกสิ่งอย่าง ผู้ทรงสร้าง ทรงประทานปัจจัยยังชีพ ทรงบริหารจัดการเรื่องต่าง ๆ ของสรรพสิ่ง นี่คือการยอมรับในเตาฮีดอัรรุบูบียะฮ์ เหตุนี้เองท่านนบี จึงต่อท้ายด้วยกับประโยคที่ว่า “พระองค์ทรงบังเกิดข้าพระองค์” กล่าวคือ พระองค์คือพระผู้อภิบาลของข้าพระองค์(ร็อบบี) ผู้ทรงสร้างข้าพระองค์ ไม่มีพระผู้สร้างอื่นนอกจากพระองค์ท่านอีกแล้ว






﴿وَٱلَّذِينَ إِذَا فَعَلُواْ فَٰحِشَةً أَوۡ ظَلَمُوٓاْ أَنفُسَهُمۡ ذَكَرُواْ ٱللَّهَ فَٱسۡتَغۡفَرُواْ لِذُنُوبِهِمۡ وَمَن يَغۡفِرُ ٱلذُّنُوبَ إِلَّا ٱللَّهُ وَلَمۡ يُصِرُّواْ عَلَىٰ مَا فَعَلُواْ وَهُمۡ يَعۡلَمُونَ﴾
“บรรดาผู้ที่เมื่อพวกเขากระทำสิ่งชั่วใด ๆ หรือ อธรรมต่อตัวเองแล้ว พวกเขาก็รำลึกถึงอัลลอฮฺ แล้วขออภัยโทษในความผิดต่าง ๆของพวกเขา และใครเล่าที่จะอภัยโทษความผิดทั้งหลายให้ได้ นอกจากอัลลอฮฺเท่านั้น และพวกเขามิได้ดื้อรั้นปฏิบัติในสิ่ง ที่เขาเคยปฏิบัติมา(ความชั่ว)โดยที่พวกเขารู้กันอยู่”

“ผู้ใดที่กล่าวดุอาอ์บทนี้” หมายถึง ผู้ใดที่กล่าวถ้อยคำเหล่านี้ “ในยามเช้าด้วยความมั่นใจ” มีความเชื่อมั่นต่อคำกล่าวนี้ เพราะเป็นคำกล่าวที่ได้รับจากผู้บริสุทธิ์จากบาป(ท่านนบี )ซึ่งจะไม่พูดด้วยกับอารมณ์ หากแต่เป็นวะฮ์ยฺที่ถูกประทานมาให้แก่ท่าน “แล้วเขาเสียชีวิตในวันนั้นก่อนที่จะเข้าเวลาเย็น เขาคือหนึ่งในชาวสวรรค์ และผู้ใดที่กล่าวดุอาอ์บทนี้ยามกลางคืนโดยมีความมั่นใจ แล้วเขาเสียชีวิตก่อนที่จะถึงเวลาเช้าเขาจะเป็นหนึ่งในชาวสวรรค์”
อันที่จริงผลตอบแทนที่ถูกสัญญาไว้ในฮะดีษบทนี้นั้นเฉพาะสำหรับผู้ที่รักษาดุอาอ์บทนี้อยู่เสมอเนื่องจากเขาเริ่มต้นและสิ้นสุดวันของเขาด้วยการให้เอกภาพแด่อัลลอฮ์ ทั้งในด้านรุบูบียะฮ์และอุลูฮียะฮ์ และยอมรับในความเป็นบ่าวทาสของตน แสดงให้เห็นถึงการยอมรับในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ยอมรับว่าตนนั้นบกพร่องและผิดพลาด มีการขออภัยโทษจากผู้ทรงอภัยพร้อมกับแสดงความต่ำต้อย ความนอบน้อมยอมสยบมาแล้วก่อนหน้านี้ นี่คือเนื้อหาที่ล้ำค่าและคุณลักษณะอันสูงส่งที่บ่าวเริ่มต้นและสิ้นสุดในแต่ละวันด้วยกับคุณลักษณะอันประเสริฐนี้ จึงเป็นการสมควรแก่ผู้ที่มีลักษณะดังกล่าวและรักษามันอยู่สม่ำเสมอที่จะได้รับการอภัยโทษ ถูกปลดปล่อยจากไฟนรกและเข้าสู่สวรรค์
สรุปจากหนังสือ ฟิกฮุ้ลอัดอิยะฮ์วั้ลอัซการ ของเชคอับดรร็อซซาก อิบนุอับดุลมุฮ์ซิน อัลบัดร์
★อ.ฮัซซาน เเดงโกเมน เเปล/เรียบเรียง
